เคล็ด(ไม่)ลับ ขจัดคราบปราบได้สุดยอด

เคล็ด(ไม่)ลับ ขจัดคราบปราบได้สุดยอด

เคล็ด(ไม่)ลับ ขจัดคราบปราบได้สุดยอด

เคล็ด(ไม่)ลับ ขจัดคราบปราบได้สุดยอด

คราบหนักขจัดยากทุกคราบที่เกิดขึ้นในบ้านคงทำให้แม่บ้านกลุ้มใจกันแน่ ๆ เพราะกว่าจะหาวิธีกำจัดคราบได้ก็เล่นเอาเหนื่อยพอตัว แถมเมื่อลองนำสารพัดวิธีที่หามาได้มาทำความสะอาดคราบเหล่านี้ ก็ยังไม่ค่อยจะได้ผลซะอีก เฮ้อ ! แบบนี้จะไม่ให้ทั้งเหนื่อยทั้งกลุ้มได้ยังไง แต่ก็อย่าเพิ่งท้อใจเลยค่ะ ลองมากำจัดคราบหนักด้วยเคล็ดลับขั้นเทพต่อไปนี้กันดีกว่า แล้วจะรู้ว่าบรรดาคราบฝังแน่นทั้งหลายน่ะ กำจัดง่ายนิดเดียวเอง

คราบอาหารบนเตา

ดาวน์โหลด

วิธีง่ายๆในการทำความสะอาดคราบต่างๆในเตาอบนี้ออกไป

ตั้งเตาอบไว้ที่ความร้อน 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 นาที แล้วจึงปิดเครื่อง จากนั้นเอาหม้อใส่น้ำเดือดตั้งไว้ที่พื้นเตาอบ เอาชามทนไฟ ไส่แอมโมเนีย วางไว้บนตะแกงเตาอบเหนือหม้อน้ำเดือดที่ใส่ไว้ ปิดฝาเตาอบทิ้งไว้สัก 3-4 ชั่วโมง แล้วจึงค่อยนำผ้าชุบน้ำหมาดๆมาทำความสะอาด คราบต่างๆจะหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย

แม่บ้านทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่างานในครัวมีมากมายขนาดไหน ดังนั้นคงไม่มีใครสามารถจับตาดูหม้อที่ตั้งอยู่บนเตาได้ตลอดเวลาแน่ ๆ ก็เลยทำให้ต้มจืด ซุป หรือแกงที่ล้นออกมาจากหม้อหยดลงมาเปื้อนและกลายสภาพเป็นคราบฝังแน่นติดเตาอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งไม่ว่าจะใช้น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยากำจัดคราบก็เอาคราบเหล่านี้ไม่อยู่ ถ้าอย่างนั้นลองผสมน้ำยาล้างจานกับผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าเข้าด้วยกัน แล้วนำมาป้ายทิ้งไว้บนคราบฝังแน่นบนเตาสัก 15 นาที (รอให้เตาหายร้อนก่อนด้วยนะจ๊ะ) จากนั้นก็ใช้ฟองน้ำชุบน้ำ บิดให้หมาด แล้วนำมาขัดคราบให้สะอาดเกลี้ยง แต่ถ้าคราบยังดื้อไม่ยอมหลุด ลองหยดน้ำยาลงไปสัก 2-3 หยด แล้วทิ้งไว้อีก 15 นาที จากนั้นก็ค่อยขัดด้วยฟองน้ำอีกรอบ และปิดท้ายด้วยการใช้น้ำล้างทำความสะอาดอีกครั้งค่ะ

คราบฝังแน่นบนหม้อ

ขนาดเตายังเปื้อนคราบอาหารซะจนต้องออกแรงทำความสะอาดกันไม่น้อยอย่างนั้น ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวหม้อ กระทะ และตะแกรงบนเตาจะโดนหางเลขกันไปขนาดไหน แต่ถึงแม้ว่าคราบจะฝังแน่นแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัว เพราะเพียงแค่ผสมน้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาซักผ้ากับน้ำสบู่ประมาณ 4 ถ้วยตวง หรือให้พอท่วมหม้อ กะทะ และตะแกรงที่เราจะเอามาแช่ จากนั้นก็แช่ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยใช้ฟองน้ำขัดคราบให้หมดจดอีกครั้ง เสร็จแล้วก็นำไปล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าอีกรอบก็เสร็จ

คราบสกปรกต่าง ๆ ในครัว

ความสกปรกในครัวไม่ได้มีแค่บนเตา บนหม้อหรือกระทะเท่านั้น แต่ยังกระจายไปทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะบนเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร ซึ่งถ้าทำครัวกันทุกวันคราบสกปรกที่ตอนแรกยังบางเบาก็จะสะสมเพิ่มพูนจนเป็นคราบที่ฝังแน่น และถ้าอยากจะกำจัดคราบสกปรกเหล่านี้ แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูฉีดพรมผ้าไมโครไฟเบอร์ให้พอชื้น ๆ แล้วก็นำไปเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณ แต่ถ้าพื้นเคาน์เตอร์และพื้นที่ในครัวส่วนใหญ่ของคุณเป็นพื้นคอนกรีต ควรใช้น้ำยากำจัดคราบฝังแน่นในห้องครัวโดยเฉพาะแทนน้ำส้มสายชู เพราะกรดในน้ำส้มสายชูอาจจะทำลายพื้นแกรนิตให้ด่างได้ แล้วก็อย่าลืมเช็ดทำความสะอาดบนหลังตู้เก็บของและหลังตู้เย็นด้วยนะจ๊ะ

 

รอยด่างบนสเตนเลส

เวลาที่เกิดคราบเปื้อนบนเครื่องครัวที่เป็นสเตนเลส มักจะสังเกตเห็นคราบและรอยด่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากสเตนเลสมีความวาวใส และถ้าปล่อยไว้นาน ๆ ก็คงไม่ดีแน่ ดังนั้นมาใช้เทคนิคขั้นเทพกำจัดรอยด่างเหล่านี้ออกไปดีกว่า ด้วยการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำเล็กน้อย แล้วนำมาขัดถูเครื่องครัวสเตนเลสให้ขึ้นเงา แต่ถ้ามีคราบสกปรกติดทนนานไม่ยอมหลุดออกไป แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมกับแอมโมเนีย (ควรทำในที่โล่ง และอากาศถ่ายเทได้ดี) แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำยาที่ผสมไว้ให้พอชื้น ๆ จากนั้นก็นำไปขัดคราบสกปรกออกไปให้หมดแเสร็จแล้วก็เช็ดให้แห้งและขึ้นเงาด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ผืนสะอาดอีกครั้ง

คราบสบู่ในห้องน้ำ

คราบสบู่ก็เป็นคราบอีกชนิดหนึ่งที่กำจัดออกยากพอสมควร เพราะกว่าเราจะเห็นคราบสบู่ที่เกาะแน่นได้ชัดเจนก็เป็นตอนที่มีคราบสบู่เกาะสะสมอยู่หนาแน่นแล้ว แต่ถึงคราบสบู่จะเกาะเหนียวแน่นยังไงก็สบาย เพราะเพียงแค่เราผสมน้ำมะนาว ½ ถ้วยตวง, น้ำสะอาด ½ ถ้วยตวง, น้ำส้มสายชูกลั่น ½ ถ้วยตวง และเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง คนให้เข้ากันจนเป็นแป้งเหนียว และนำไปป้ายลงบนคราบสบู่ที่เกาะอยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ในห้องน้ำ จากนั้นก็ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วค่อยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือฟองน้ำชุบน้ำขัดคราบออกอีกครั้ง พร้อมทั้งล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบก็สามารถขจัดคราบสบู่ได้หมดจด แต่เคล็ดลับสุดยอดในการขจัดคราบสบู่ให้อยู่หมัดก็คือ ควรหมั่นใช้ฟองน้ำขัดทำความสะอาดอ่างอาบน้ำ ผนังห้องน้ำ ตู้อาบน้ำ และพื้นห้องน้ำทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จนะจ๊ะ

คราบตกค้างจากสเปรย์แต่งผม

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของเรา โดยเฉพาะสเปรย์และเจลแต่งผม ที่ตกค้างอยู่บนอ่างล้างหน้า หรือพื้นห้องแต่งตัว ก็สามารถกำจัดออกได้ง่าย ๆ ด้วยการราดน้ำร้อนลงบนอ่างล้างหน้าหรือพื้นที่มีคราบเปื้อน จากนั้นก็ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดทำความสะอาด แต่ถ้ายังไม่ได้ผล แนะนำให้ใช้แอมโมเนียพรมลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ แล้วนำไปขัดทำความสะอาด หรือจะผสมน้ำครึ่งถ้วยตวง กับน้ำยาล้างจาน 2-3 หยด แล้วนำผ้าไมโครไฟเบอร์ไปชุบ จากนั้นก็โรยผงเบกกิ้งโซดาลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์สักหน่อย แล้วนำไปขัดทำความสะอาดคราบ ทิ้งไว้สักพัก แล้วก็ล้างด้วยน้ำสะอาด และทำซ้ำอีกสัก 1-2 รอบหรือจนกว่าคราบเปื้อนจะหมดไป

ขจัด 10 ปัญหาคราบหนัก ด้วยเคล็ดลับขั้นเทพ

รอยถลอกที่อ่างล้างหน้า

อ่างล้างหน้าโดยเฉพาะอ่างพอร์ซเลนมักจะเกิดการเสียดสีจนถลอกได้ง่าย ๆ แต่เราสามารถลบรอยเหล่านี้ออกไปได้ด้วยการโรยผงขัดทำความสะอาดที่ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนลงบนรอยถลอกเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาด ๆ หรือใช้ฟองน้ำด้านนิ่มขัดเบา ๆ จนรอยถลอกจางลงและหมดไป

ฝ้ามัวบนกระจกตู้อาบน้ำ

ถ้าที่บ้านคุณมีตู้อาบน้ำก็คงต้องเจอกับปัญหากระจกตู้มัวไปด้วยฝ้าจนไม่วาวใส แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพียงแค่คุณใช้สเปรย์น้ำส้มสายชูฉีดพรมประตูตู้อาบน้ำให้ทั่ว จากนั้นก็ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดทำความสะอาด และล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่ถ้ากระจกยังไม่วาวอย่างใจ คราวนี้ให้ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดคราบสบู่ที่มีขายอยู่ทั่วไปแทน แต่ไม่ควรใช้น้ำยาขจัดคราบที่มีฤทธิ์กัดกร่อนนะคะ หลังจากนั้นก็ควรเคลือบตู้กระจกทั้งตู้ด้วยแวกซ์ขัดเงา หรือน้ำยาขัดเงา เพื่อป้องกันคราบสบู่มาเกาะจับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลังอาบน้ำทุกครั้งก็ควรเช็ดคราบน้ำด้วยฟองน้ำให้แห้ง หรืออย่างน้อยก็ให้หมาดด้วยจ้า

ฝุ่นแอบซ่อนในมู่ลี่

ถ้าสังเกตดูให้ดี ๆ จะเห็นฝุ่นที่เกาะจับอยู่ตามซอกของมู่ลี่ ซึ่งหลายคนก็นึกว่าทำความสะอาดยาก และซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วง่ายมากค่ะ เพียงแค่พรมน้ำลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์เล็กน้อย แล้วปรับมู่ลี่ให้ปิดสนิท จากนั้นก็ค่อย ๆ ปีนไปเช็ดมูลี่ตั้งแต่ด้านบนลงด้านล่าง เสร็จแล้วก็ปรับมู่ลี่ไปอีกทิศทางหนึ่ง แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดทำความสะอาดจากด้านบนลงมาด้านล่างอีกครั้ง เสร็จแล้วก็อย่าลืมย้ายไปทำความสะอาดมู่ลี่ที่ด้านหลังด้วยล่ะ

โคมไฟระย้าฝุ่นหนาเตอะ

ของที่พ้นจากสายตามักจะถูกมองข้ามอยู่บ่อย ๆ รวมทั้งโคมไฟระย้าเหล่านี้ด้วย ดังนั้นนาน ๆ ครั้งที่คุณคิดจะทำความสะอาดบ้านชุดใหญ่ หรือเริ่มสังเกตได้ว่าโคมไฟไม่ค่อยจะเปล่งแสงสว่างได้ดีเท่าเมื่อก่อนแล้ว ก็ควรปีนไปทำความสะอาดโคมไฟระย้าด้วยการปัดฝุ่น หรือจะใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หมาด ๆ เช็ดโคมไฟก็ได้ และถ้าโคมไฟระย้าของคุณเป็นแบบที่ถอดแยกชิ้นออกมาทำความสะอาดได้ก็จะดีมาก จะได้นำมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำผสมน้ำยาล้างจาน แล้วใช้ฟองน้ำหรือผ้านุ่ม ๆ ขัดคราบสกปรกและฝุ่นที่เกาะแน่นอยู่ออกไปให้หมด ก่อนจะนำไปตากแดดหรือเช็ดให้แห้ง แล้วนำไปติดตั้งเหมือนเดิม

ไม่ว่าจะกี่คราบสกปรกที่ร่ำลือกันว่ากำจัดยากที่สุด เคล็ดลับขั้นเทพเหล่านี้ก็สามารถขจัดได้อย่างหมดจดแน่นอน แต่ถึงจะมีเทคนิคเด็ดแค่ไหนก็ไม่สำคัญ ถ้าคุณเองไม่ลงมือทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเองอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็อย่าละเลยการทำความสะอาดจนต้องพึ่งพาเคล็ดลับเหล่านี้จะดีกว่าเนอะ